‘พลาม พรจำปา’แซะ’ตูน’ อย่าทำตัวพระเอกคนเดียว ชี้ไม่ใช่คนแรกวิ่งจากเบตง-แม่สาย

วันที่ 6 ม.ค. 61 เรียกได้ว่ากำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ อยู่ในโลกออนไลน์ขณะนี้ สำหรับกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “พลาม พรมจำปา” ได้มีการออกมาโพสต์ข้อความถึงนักร้องชื่อดัง “ตูน บอดี้สแลม” ว่าไม่ใช่คนไทยคนแรก ที่เคยวิ่งจากใต้สุดไปเหนือสุด เนื่องจากเคยมีคนที่เคยวิ่งมาก่อนถึง 2 คน ก็คือ

1. นายไชยวัฒน์ วรเชฐวราวัตร อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เมื่อปี 2529 เคยวิ่งจากเบตง-แม่สาย เพื่อหาทุนอาหารกลางวันให้เด็ก โดยใช้ระยะเวลาในการวิ่ง 60 วัน

2. นายพลาม พรมจำปา อดีตครูฝึกรบพิเศษตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร เมื่อปี 2548 เคยวิ่งเพื่อสันติภาพ จาก แม่สาย-เบตง โดยใช้ระยะเวลาในการวิ่ง 42 วัน และ เมื่อปี 2558 วิ่งจาก เบตง-ศิริราศ-หนองคาย-แม่สาย โดยใช้ระยะเวลาในการวิ่ง 52 วัน

ทั้งนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “พลาม พรมจำปา” โพสต์ข้อความระบุว่า “สังคมอยากรู้จริงๆอย่าให้สังคมสับสนเข้าใจผิด ตูนจะตอบสังคมว่ากระไรกับคนที่เคยวิ่งมาก่อนเขาถึง 2 คนแบบนี้ 1.นายไชยวัฒน์ วรเชฐวราวัตร ปี 2529 วิ่ง 60 วัน เบตง-แม่สาย 2.นายพลาม พรมจำปา ปี 2548 วิ่ง 42 วัน แม่สาย-เบตง และ ปี 2558 วิ่ง 52 วัน เบตง-ศิริราศ-หนองคาย-แม่สาย 3.นายอาทิวราห์ คงมาลัย ปี 2560 วิ่ง 55 วัน เบตง-แม่สาย อย่าเป็นพระเอกคนเดียวสังคมอยากจะรู้มีอะไรอยู่ในใจ ยังมีโอกาสออกตัวแบบพระเอกได้

อย่าชี้นำให้สังคมมองคนอื่นเป็นตัวร้ายเลยครับ มิน่าวันที่เข้าเส้นชัยที่แม่สาย 25 ธ.ค.2560 ผมไปรอแสดงความยินดีด้วย ทีมงานก้าวคนละก้าวจึงมาล็อกตัวขอร้องให้ผมอยู่ห่างๆตูนคงไม่ต้องอธิบายผมให้เกียรติคนอื่นเสมอแต่คนอื่นก็ควรให้เกียรติผมด้วย..ผมกำลังบอกกับรายการเป็นเรื่องเป็นข่าวที่เคยเชิญคนเหล่านี้มาออกอากาศมาแล้วได้เชิญทั้ง 3 คนที่บอกว่าเป็นฮีโร่ของคนไทยมาปรากฎตัวพร้อมๆกันตอนแรกผมก็ยังคิดว่าผมเป็นคนแรกเหมือนกันเพราะไม่ทราบมาก่อนเพิ่งทราบภายหลังเอาให้ดีครับ พลาม พรมจำปา นักวิ่งในตำนาน”

และเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 61 “พลาม พรมจำปา” ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ประกาศขอวิ่งอีกครั้ง เพื่อระดมทุนช่วยเหลือ ทหาร ตำรวจ ที่พิการจากเหตุการณ์การก่อความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยจะเริ่มวิ่งจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย และไปสิ้นสุดที่ อ.เบตง จ.ยะลา โครงการนี้จะเริ่มวันที่ เริ่ม13 เมษายน – 23 พฤษภาคม 2561 กำหนดการวิ่ง 40 วัน รวมระยะทางในการวิ่ง 2,000 โล โดยการวิ่งในครั้งนี้ ที่ข้อเท้าจะมีการล่ามโซ่ น้ำหนัก 7 ก.ก. เอาไว้อีกด้วย รวมถึงมีการตั้งเป้ายอดเงินบริจาคทั่วประเทศอยู่ที่ จำนวน 200 ล้านบาท