แม่ส่งเรียน จบแล้วก็ต้องเลี้ยงแม่สิ! สถาปนิกหนุ่ม ลาออกจากงาน ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมา แปลงโฉมแผงลอยขายผักของแม่ ให้มีระดับ มีไลค์เท่าไหร่กดให้เลย!

แม่ส่งเรียน จบแล้วก็ต้องเลี้ยงแม่สิ! สถาปนิกหนุ่ม ลาออกจากงาน ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมา แปลงโฉมแผงลอยขายผักของแม่ ให้มีระดับ มีไลค์เท่าไหร่กดให้เลย!

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าชีวิตแบบหรูหรา มีหน้ามีตาในสังคม ใช้กับทุกคนไม่ได้จริง ๆ ในสังคมปัจจุบัน หลายคนคงต้องการความก้าวหน้าในชีวิต ยอมทำทุกวิถีทางให้ได้ซึ่งชื่อเสียงเงินทอง เกียรติยศ แต่กลับไม่ใช่สำหรับหนุ่มรายนี้ มีดีกรีเป็นถึงสถาปนิก ยอมลาออกจากงาน เพื่อกลับมาใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายที่บ้านเกิด ด้วยอาชีพขายผัก ซึ่งวันนี้เราได้หยิบยกเรื่องราวมาให้ทุกคนได้ดูกัน เพราะเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ชีวิตแบบพอเพียงตามแนวพระราชดำริ และเขาก็ทำมันได้จริง อีกทั้งมีความสุขกับมันด้วย

และนี่คือแผงขายผักของแม่เขา ซึ่งตั้งอยู่ในตลาด ด้วยความเป็นสถาปนิก เขาจึงทำการดัดแปลงสร้างใหม่ให้เกิดความดึงดูด ชวนน่าซื้อมากขึ้น กลายเป็นแผงขายผัก แบบน่ารัก ๆ ชิค ๆ ดูทันสมัยขึ้นมา เชื่อหรือไม่ว่า เขาใช้งบทั้งหมดเพียง 200 บาท เท่านั้น ทำได้อย่างไรกัน เราไปดูวัสดุกันเลยจ้า

รายการวัสดุก็มีดังนี้

1. ไม้กระดานอัด = ได้จากป้ายหาเสียงเหลือใช้

2. สีดำเเบบเช็ดได้ = เหลือจากทาผนังในบ้าน

3. ชอล์ก = 20 บาท

4. โคมไฟ = ถาดกรองน้ำกะทิในตลาด 20 บาท

5. หลอด+สายไฟ = 40 บาท

6. ตับจากกั้นผนัง ตับละ 4 บาท x25 ชิ้น = 100 บาท

7. เศษไม้เเละอื่นๆ = หาได้จากในสวน

และนี่คือภาพแผงผักเดิมที่ยังไม่ได้รับการตกแต่ง

เริ่มต้นจากการวาดแปลนร้าน

จากนั้นก็ทำการตกแต่งร้าน จนกลายมาเป็นแบบนี้

ลูกค้าแน่นร้าน

แค่เห็นป้ายก็ดึงดูดใจแล้ว

ซึ่งผักที่นำมาขายเป็นผักที่ปลูกเองจากไร่ รับประกันในความปลอดภัย เพราะเป็นผักที่ไม่ใช้สารเคมี นอกจากนี้ยังมีการออกแบบบรรจุภัณฑ์สุดกิ๊กเก๋ซะด้วย

แพกเกจเก๋เหมือนสินค้านำเข้าเลย

ดูดีมีราคาขึ้นกว่าเดิมเยอะ

สุดท้าย เขาได้กล่าวความรู้สึก ภายหลังที่ตัดสินใจออกจากงานว่า "2 ปีที่ได้กลับมาอยู่ที่นี่ ได้กลับมาพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้น บนวีถี เกษตรอินทรีย์ นอกจากมันจะทำให้ผมกับครอบครัวมีความสุขเเละสุขภาพที่ดีเเล้ว มันยังพิสูจน์ให้เราเห็นอีกด้วยว่า สิ่งทึ่พระองค์ทรงคิด คือสิ่งที่ดี เหมาะสมกับเกษตรกร เเละคนต่างจังหวัดอย่างเราครับ"

ข้อมูลและภาพจาก FB : บ้านไร่ ไออรุณ baan rai i arun

ความคิดเห็น