ลูกฉันเป็นคนดีนะ?!!! มาอีกแล้วสไตล์นี้ หัวอกแม่เผยน้ำตาคลอ ยัน ลูกชายไม่สู้คน ย้อนแย้งประวัติอาชญากรรมสิ้นดี?!!

ลูกฉันเป็นคนดีนะ?!!! มาอีกแล้วสไตล์นี้ หัวอกแม่เผยน้ำตาคลอ ยัน ลูกชายไม่สู้คน ย้อนแย้งประวัติอาชญากรรมสิ้นดี?!!

จากเรื่องราวที่สมาชิกผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sudarat Boonchai ได้โพสต์เหตุการณ์ที่เจอกับตัวเอง ทั้งนี้ได้ระบุข้อความว่า เตือนภัย ! ไอ้นี้มันบอกว่ามันเปนวิน ยุน่าหมอชิต2 แล้วตอนนั้นรถก้ติดแท็คซี่ก้ไม่มี มันก้บอกว่าเดียวไปส่งด้านนอกรถมันติด ความที่เราใม่เคยมา ก้เรยขึ้น มันขับออกจากหมอชิตไม่ถึงกิโล มันบอกว่า450 โหหหหหห เกินไปป้ะ มันบอกว่าเทศกาล พอเราบอกจะจ่ายร้อยเดียว ก้โวยวาย พอจะโทหาตำรวจ ก้จะมาทำร้ายเรา เห้อออออ ! หากินแบบนี้หรออ #ขอบคุนลุงแท็คซี่ด้วย แกก้แก่แล้วนะ ใอ้ห่านั้นก้จะต่อยลุงอีก ฝากเตือนทุกคนด้วย ช่วงเทศกาลมิจฉาชีพเยอะจิงๆ แชร์กันเยอะๆ

ล่าสุดนั้นได้ถูกจับกุมตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ผู้ต้องหารายนี้ได้รับสารภาพว่าเมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาก็ได้เคยก่อเหตุมาแล้ว และในเทศกาลปีใหม่นี้ได้ก่อเหตุมาแล้ว 10 ครั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่าเคยถูกจับกุมดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้ว 5 ครั้ง” พล.ต.อ.วิระชัย กล่าว

ผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความ

โดยวันนี้ ยังมีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มที่ สน.บางซื่อ อีก 3 ราย ทุกคนระบุตำหนิ รูปพรรณคนร้ายตรงกัน คือ มีรอยสักที่คอ โดยหนึ่งในผู้เสียหายระบุว่า ช่วงเวลาประมาณตี 2 ของวันที่ 2 ธันวาคม ตนเองกับเพื่อนผู้เสียหายอีกคน ได้นั่งรถทัวร์กลับจากเชียงใหม่ มาลงที่ขนส่งหมอชิต ระหว่างนั้น ถูกกลุ่มวินรถจักรยานยนต์กว่า 10 คัน เข้ามาชักชวนให้ใช้บริการ แต่ตนไม่สนใจเพราต้องการเรียกรถแท็กซี่ จึงได้ไปนั่งทานก๋วยเตี๋ยว แต่วินจักรยานยนต์ยังตามตื้อและรอ ตนจึงได้เข้าไปเจรจายอมจ่ายค่าเสียเวลาให้ 100 บาท แต่ไม่ต้องไปส่ง ซึ่งวินดังกล่าวก็ยังไม่ยอมไป ทำให้ตนกับเพื่อนต้องนั่งรถวินไปคนละคัน แต่ปรากฎว่าขี่ไปคนละทาง แล้วยังเรียกเก็บค่าโดยสารคนละ 480 บาท โดยเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเสพยาเสพติดด้วย เพราะมีอาการคล้ายคนเมายา ชักกระตุกเป็นระยะๆ เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหากรรโชกทรัพย์ และความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ อีก 4 ข้อหา

และทางทีมข่าวอมรินทร์ ได้ลงพื้นที่ไปยัง บริเวณชุมชนวัดแค นางเลิ้ง และได้พบกับ นายอี๊ด(นามสมมติ) เพื่อนร่วมชุนชนของ “นายพายุ” หรือ “นายยุ” เล่าว่า ส่วนตัวแล้วไม่ทราบมาก่อนว่า นายยุ เรียกเก็บค่าโดยสารแพง หรือขับวินมอเตอไซต์ถูกกฎหมายหรือไม่ เพิ่งจะมารู้ก็ตอนที่เป็นข่าว ที่ผ่านมา นายยุ เป็นคนมีน้ำใจ ไม่เคยใช้คำพูดที่ไม่ดีกับคนในชุมชนเลย และไม่เคยมีปัญหากับใคร

นายอี๊ด (นามสมมุติ) คนพานายพายุเข้ามอบตัว

หลังจากทราบเรื่องจากข่าวในโลกออนไลน์ ก็ได้สอบถามกับ นายยุว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริงหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพว่าทำจริง รู้สึกเครียด และรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น และบอกกับตนว่าต้องการที่จะมอบตัว จึงตัดสินใจพานายยุมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง พร้อมรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ หมวกกันน็อค เสื้อผ้า ที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ

นายเต๋อเพื่อนของพายุ

ด้าน นายเต๋อ (นามสมมติ) เพื่อนอีกคนหนึ่งที่เช่าบ้านอยู่กับ นายพายุ อยู่ด้วยกันประมาณ 6-7 เดือน เล่าว่า ปกติ นายยุ เป็นคนขี้กลัว เนื่องจากเคยถูกจับคดียาเสพติดมาแล้วหนึ่งครั้ง ส่วนเรื่องขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ไม่ทราบว่า นายยุ ไปขับได้อย่างไร เห็นเพียงว่ามีเพื่อนแถวหมอชิตมาชักชวนไปขับด้วย ซึ่งตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาก็เห็นไปขับวินรับจ้างตลอด แต่เป็น”วินผี”เพราะขับร่อนไปเรื่อยๆ ทำให้โดนตำรวจเรียกจับเสียค่าปรับหลายครั้ง ทำให้นายยุ ไปสั่งตัดเสื้อวินเองในราคา 450 บาท แถวย่านปทุมวัน พอโดนตำรวจจับอีกก็ไปสั่งตัดใหม่ ตนก็ได้แต่ว่ากล่าวตักเตือนไป

ส่วนทางด้านของ นางศรี อับน้อยวงศ์ หรือ “ยายน้อย” แม่ของนายพายุ เปิดเผยว่า ยังไม่เห็นคลิปวีดีโอดังกล่าว และไม่ทราบข่าวว่าลูกชายโดนจับ แต่มีคนแถวบ้านบอกว่า ลูกขับวินมอไซต์แล้วเรียกเก็บเงินแพง ยายน้อย เล่าว่า ลูกชายขับวินมานานแล้ว แต่ไม่เคยรู้ว่าไปขับอยู่อู่ไหน อย่างไรบ้าง โดยปกติลูกเป็นคนขยันทำงาน ใครจ้างไปทำอะไรก็รับจ้างหมด อีกทั้งยังเป็นคนรักพ่อแม่ รักครอบครัว ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายแม่ เวลามาเจอก็เอาเงินจากที่ขับวินมาให้ และซื้อกับข้าวมาให้ตลอด

เรื่องปัญหาส่วนตัวก็ไม่เคยเล่าให้แม่ฟัง เป็นคนเงียบๆ อีกทั้ง เป็นคนไม่สู้คนและไม่เคยต่อล้อต่อเถียงกับใคร เคยมีครั้งหนึ่งไปมีเรื่องกับคนอื่น โดนทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่เคยมาเล่าให้แม่ฟัง สุดท้าย มาทราบเรื่องเอง ซึ่งก็เป็นเพียงครั้งเดียวที่มีเรื่องมีราวกับคนอื่นเขา

พอเกิดเหตุการณ์เรียกเก็บค่าวินแพงตามที่เป็นข่าว ผู้เป็นแม่เผยทั้งน้ำตาว่า รู้สึกไม่สบายใจ เสียใจ และลำบากใจว่าจะทำอย่างไร ไม่รู้ว่าลูกไปอยู่โรงพักไหน จะโดนคดีอะไรบ้าง ส่วนตัวตอนนี้สงสารลูกมากที่สุด เพราะถ้าไม่มีพายุก็คงไม่มีใครหาให้ตนกิน มีเพียงพายุคนเดียวที่ช่วยเหลือ ที่ผ่านมาลูกชายเป็นเด็กดีที่สุด รักพ่อแม่ พ่อไม่สบายก็หาเงินมาซื้อยามาให้

ชมคลิป

ขอบคุณที่มาจาก : AMARIN TVHD รายการทุบโต๊ะข่าว